2 แม่ลูกก็น้ำตาไหล  เดินแจกข้าว เจอยายนอนซมไร้เรี่ยวแรง ไม่ได้สวมเสื้อ ข้าวแมลงวันตอม โอ่งน้ำมีตะไคร่กินไม่ได้

2 แม่ลูกก็น้ำตาไหล เดินแจกข้าว เจอยายนอนซมไร้เรี่ยวแรง ไม่ได้สวมเสื้อ ข้าวแมลงวันตอม โอ่งน้ำมีตะไคร่กินไม่ได้

เมื่อวันที่ 9 ม.ค.67 สำนักข่าวดัง ได้เปิดเผยว่า นายธนาวัฒน์ จันนิม หรือโอวา พร้อมกับ นางยศ จันนิม เปิดใจ หลังจากที่ช่วยเหลือคุณยายท่านหนึ่ง ที่นอนไม่มีแรง อยู่ภายในหมู่บ้าน ตาโมมพัฒนา หมู่ 12 ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เมื่อเห็นสภาพความเป็นอยู่ 2 แม่ลูกก็น้ำตาไหล ด้วยความสงสาร นายธนาวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลไม่ว่าจะเป็นสงกรานต์หรือปีใหม่ แม่ของตนมักจะนำข้าวสารไปแจกให้กับคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน เนื่องจากทำอาชีพขายข้าวสารอยู่แล้ว โดยปกติแม่ของจะไปคนเดียว แต่ว่าครั้งนี้ตนอยู่ด้วยก็เลยอาสาขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งแม่ ก็ไปเจอกับบ้านหลังหนึ่งที่เหมือนจะไม่มีคนอยู่ แม่ของตนจึงเดินเข้าไปในบ้านเพื่อจะเอาข้าวสารให้

ส่วนตนก็ถ่ายคลิปแม่เอาไว้เล่นๆ ไม่ได้อยากจะทำคอนเทนท์อะไร แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินเข้าไปก็เห็นคุณยายท่านหนึ่ง นอนผอมแห้ง ท่อนบนเปลือยเปล่า ข้างล่างมีเพียงแค่ผ้าถุง พันเอาไว้หลวมๆ และนอนเอามือเอื้อมไปหยิบข้าวที่อยู่ในจานข้างๆมากิน เหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง

ครั้งแรกที่แม่เห็นคุณยายท่านนี้ก็ร้องไห้ด้วยความสงสาร เพราะจากสภาพความเป็นอยู่ของคุณยายแล้ว ก็ทำให้เราอดน้ำตาไหลไม่ได้เหมือนกัน ทั้งข้าวที่มีแมลงวันตอม โอ่งใส่น้ำที่มีตะไคร่สีเขียว แทบจะกินไม่ได้ และสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่มันอาจจะทำให้คุณยายล้มป่วยลงได้ ซึ่งทั้งหมดนี้มันบีบหัวใจของเราจนไม่รู้จะพูดอะไร โดยเฉพาะคุณแม่ที่เห็นสภาพความเป็นอยู่ของคุณยายก็ร้องไห้ เพราะเหมือนท่านมีปมในใจ ที่ไม่สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ให้อยู่สบายได้ ซึ่งตอนนี้ท่านก็จากไปแล้ว นายธนาวัฒน์ กล่าวต่อว่า

ซึ่งชีวิตของคุณยายน่าสงสาร ลูกก็ติดอบายมุข รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล น้องชายก็พิการ คนที่มาหาอาหารให้ก็เป็นหลาน ที่เอาอาหารมาวางให้ แล้วก็ไม่ได้ดูแลต่อ ครั้งแรกที่เห็นก็เกิดคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่า คนเรามันลำบากได้ขนาดนี้เลยหรอ เราจึงตัดสินใจช่วยคุณยายเท่าที่สามารถช่วยได้

ตอนนี้ผมก็มีทุนและเงินสนับสนุนจากเพื่อนๆ ที่จะช่วยเหลือคุณยายแบบเร่งด่วนก่อน นั่นก็คือตั้งใจจะเปลี่ยนน้ำให้คุณยาย เพื่อที่จะให้ท่านได้ดื่มน้ำสะอาดโดยตรง จะไม่เปิดรับบริจาคเพราะมองว่ามันไม่ยั่งยืน จึงอยากให้หน่วยงานที่สามารถช่วยเหลือท่านได้ ให้เข้ามาดูแล เพื่อคุณภาพชีวิตจะได้ดีขึ้น” นายธนาวัฒน์ กล่าว ทั้งนี้ เรื่องราวของคุณยายสะท้อนให้ตนเห็นว่า

ถ้าในอนาคต ตนที่เป็น LGBT ถ้าแก่ขึ้นมาแล้วไม่มีลูกหลานดูแล จะเป็นแบบนี้หรือไม่ อยากฝากบอกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า หากสามารถช่วยให้โครงสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยเข้มแข็งและยั่งยืน โดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้าน นางยศ กล่าวว่า ครั้งแรกที่ตนเดินเข้าไปในบ้าน ก็เห็นคุณยายท่านนี้นอนหยิบข้าวกิน แม่จึงเดินไปหา คุณยายท่านนี้จึงถามว่าเป็นใคร ตนจึงแนะนำตัวไป แล้วบอกว่าจะเอาข้าวมาให้กิน ซึ่งคุณยายพยายามจะลุกขึ้นมานั่งแต่ถ้าลุกไม่ไหว ตนจึงประคองเอาไว้ ให้ลุกขึ้นมานั่งคุยกัน แกก็เล่าเรื่องราวชีวิตให้ฟังว่า

ชีวิตแกลำบากมาก ก่อนที่จะขอบคุณและอวยพรให้กับตนด้วย ซึ่งตนก็ให้ข้าวสารปลาทู และเงินที่มีติดตัวอยู่ 40 บาท เอาให้ทั้งหมด ซึ่งตนเห็นว่าคุณยายไม่มีลูกหลานมาคอยดูแลเลยก็รู้สึกสงสารมาก ที่ผ่านมาตนก็พยายามสอนลูกหลานว่า ถ้าหากครอบครัวพ่อแม่เราแก่เฒ่าเราก็ต้องดูแล เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เพราะว่าท่านก็ทำให้เราเกิดมา ที่ผ่านมาตนจึงพยายามช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนลำบาก ซึ่งมันก็ทำให้เรารู้สึกอิ่มใจที่ได้ทำบุญ

ขอบคุณ ovaricesurin

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ