ครูเป็นห่วง 3 พี่น้อง เอะใจขาดเรียนบ่อย ตามไปดูถึงบ้านน้ำตาคลอ นักเรียนเห็นครูถึงกับร่ำไห้
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก หลังได้มีผู้ใช้ติ๊กต๊อกที่ชื่อ pinkeaw.n โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมแคปชั่นระบุว่า ภารกิจ ของครูไม่เคยสิ้นสุดแค่ในโรงเรียน วันนี้ครู 2 คนมาตามมารับเธอกลับโรงเรียนของเรานะ ล่าสุดน.ส.นภัสวรรณ ปิ่นแก้ว คุณครูโรงเรียนบ้านเขานางหงส์ จังหวัดระนอง เปิดเผยกับ สำนักข่าวดัง ระบุว่า เมื่อวันพุธที่ 3 ม.ค.67 ตนสังเกตเห็นว่านักเรียน 3 คน ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ไม่มาโรงเรียน รวมถึงก่อนหน้าจะปิดวันปีใหม่ก็ไม่มาโรงเรียน 3 วัน ตนเลยปรึกษากับคุณครูอีกท่านหนึ่ง คุณครู สุธิศา ภาคภิรมย์ ว่าเป็นห่วงเด็กทั้ง 3 คน ควรจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่มาโรงเรียน ประกอบกับที่โรงเรียนมีโครงการ พาน้องกลับมาเรียน ตนจึงขออนุญาตผู้บริหารออกนอกสถานที่ตอนเช้าเพื่อไปตามนักเรียนกลับมา
เมื่อตนไปถึง ตนเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กซึ่งอยู่ชั้น ป.4 และ เด็กผู้ชายอีกคนอยู่ชั้น ป.5 และเด็กผู้หญิงอีกคนก็อยู่ชั้น ป.5 เช่นกัน ซึ่งเด็กนักเรียนชาย 2 คนกำลังจะไปทำงาน รับจ้างเก็บไม้ฟืน
ส่วนเด็กผู้หญิงเมื่อเห็นตนก็ร้องไห้ออกมา ตนเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ไปโรงเรียน จึงได้คำตอบว่า น้องผู้ชายทั้ง 2 คน หยุดโรงเรียนเพื่อไปรับจ้างหาเงิน ช่วยพ่อ และอยากให้พี่สาวได้เรียน ทั้งนี้โรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนชนชาติพม่า ตนจึงเข้าใจว่าเด็ก ๆ แค่ออยากมาเรียนเพื่อเอาภาษา แต่ไม่ได้อยากจะเรียนจบ เพราะไม่มีทุนทรัพย์ด้วยส่วนหนึ่ง
หลังจากที่ตนได้ฟังเรื่องราว ก็จับมือสัญญากับเด็ก ๆ ทั้ง 3 ตน ว่า อย่างน้อยขอให้เรียนจบ ป.6 เพราะจะได้วุฒิ และสามารถเลือกงานได้มากกว่าแค่รับจ้างเก็บไม้ฟืน อาจจะสามารถไปเป็นล่ามตามโรงงานได้ ซึ่งเด็กผู้หญิงก็ร้องไห้ และสัญญากับตน ส่วนเด็กผู้ชายอีก 2 คน ก็บอกกับตนว่าขอเวลาอีก 1 สัปดาห์ เพราะไปรับงานแล้ว เลยต้องไปทำงานให้จบ และจะมาเรียนวันจันทร์ที่จะถึงนี้
ยอมรับว่าตนเห็นภาพดังกล่าวก็ถึงกับน้ำตาคลอ และก็จังหวะที่ครูอีกท่านหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเพื่อจะไปรายงานผู้บริหาร จึงได้ภาพที่ตนพูดกับเด็ก ๆ ออกไปด้วยใจจริง เพราะเด็กๆ เองก็ต้องการแรงบันดาลใจในการเรียนหนังสือ และคอยช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเด็กๆ อาศัยอยู่กับยาย ส่วนพ่อแม่คาดว่าแยกทางกัน และแม่ก็ไปหางานทำงานที่จังหวัดสุราษฎ์ธานี
ทั้งนี้หลังจากลงคลิปไปก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจนักเรียนตนจำนวนมาก ตนรู้สึกดีใจ และขอบคุณแทนนักเรียนจริง ๆ ตนในฐานะครู ไม่ว่าสัญชาติไหนก็อยากให้ได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกัน เพราะเขาก็เป็นเพียงเด็กเท่านั้น