เศรษฐา แจงใช้งบปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เชื่อมั่นพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ครอบคลุมทุกด้าน
วันนี้ (3 ม.ค. 2567) เมื่อเวลา 09.40 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฏร เปิดประชุมสภาหลังองค์ประชุมครบ 400 คน เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 วาระแรก โดยกำหนดเวลา 43 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน จำนวน 20 ชั่วโมง, ฝ่ายรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 20 ชั่วโมง และประธานในที่ประชุม 3 ชั่วโมง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงหลักการตั้งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 วงเงิน 3,480,000 ล้านบาท ระบุสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและฐานะการเงิน และแนวทางพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ เชื่อมั่นแผนพัฒนาประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจ กระตุ้นท่องเที่ยว ลดค่าใช้จ่ายประชาชน ครอบคลุมดูแลทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่สร้างขัดแย้ง พร้อมหวังอภิปรายสร้างสรรค์ เกิดประโยชน์สูงสุดประชาชน
นอกจากนั้น จะมีเรื่องด้านสังคม ความมั่นคง ผ่านการพัฒนากองทัพ และความมั่นคงให้ทันสมัยใกล้ชิดประชาชน ใช้การเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ส่วนด้านการเมืองการปกครอง ประชาชนจะได้เห็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แก้ไขจุดด้อย บนหลักการที่เป็นไปได้และเหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด รวมถึงไม่นำไปสู่ควาขัดแย้งใหม่ในสังคม
นายเศรษฐา ยังแถลงอีกว่า สำหรับการประเมินทิศทางเศรษฐกิจปี 2567 ของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.7-3.7% แต่มีปัจจัยเสี่ยงทั้งภาวะหนี้สินครัวเรือน ภาคธุรกิจ ปัญหาภัยแล้ง และความขัดแย้งโลก
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อจะอยูในช่วง 1.7 - 2.7% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1.5% ในภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว รัฐบาลต้องทำงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยประมาณการจัดเก็บรายได้จากภาษี การขายสินค้า บริการ รัฐพาณิชย์ และรายได้อื่น รวม 2.9 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.4% จากปี 2566
ขณะที่ กางตัวเลขวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3,480,000 ล้านบาทแบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 2,532,826 ล้านบาท รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 118,361 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 717,722 ล้านบาท รายจ่ายเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ 118,320 ล้านบาท