เวลาประมาณ 05.20 น.วันที่ 30 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.เทคนิค จันสี ผกก.สภ.แม่สาย ,พ.ต.ท.ธนากร อินะ รอง ผกก.ป. สภ.แม่สาย , พ.ต.ท.กุศลพันธ์ สิงห์ใจ รอง ผกก.สส.สภ.แม่สาย นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการสนับสนุนทางด้านการข่าวยาเสพติดตามแนวชายแดน เข้าระงับเหตุ ชายคลุ้มคลั่งจับเด็กเป็นตัวประกัน

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีชายเกิดอาการคลุ้มคลั่งเนื่องจากเสพยาบ้า ที่บ้านในหมู่บ้านน้ำจำ หมู่ที่ 5 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย และได้จับเด็กหญิงอายุประมาณ 3 ขวบเป็นตัวประกัน จึงได้นำกำลังเข้าทำการระงับเหตุดังกล่าว

เมื่อไปถึงพบชายคลุ้มคลั่งทราบชื่อคือ นายที หรือสาม นงนุช อายุ 32 ปี ชาวหมู่ที่ 3 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยได้จับกุมบุตรสาวของนายที เป็นตัวประกัน โดยได้ช้มีดจี้คอของบุตรสาว เดินไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน ท้ายหมู่บ้าน โดยมี น.ส.ดาล อายุ 37 ปี ภรรยาของ นายที หรือสาม คอยเจราจาให้ปล่อยตัวลูกสาวอยู่ตลอดเวลา

ทาง พ.ต.อ.เทคนิค ฉันสี ผกก.สภ.แม่สาย พร้อมด้วยนายสมคิด มหาวงศนันท์ กำนัน ต.โป่งผา และ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เจรจาให้นายที หรือสาม ปล่อยตัวบุตรสาว แต่นายที หรือสามได้ใช้มีดบริเวณคอหอยของบุตรสาวอยู่ตลอด และตะโกนส่งเสียงดังว่าจะมีคนมาฆ่าอยู่ตลอดเวลา และตะโกนห้าม คนเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่และภรรยาจึงได้เจรจาและเดินติดตามเพื่อประเป็นการเข้าทำการช่วยเหลือ จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.30 น. นายที หรือสาม ได้พาบุตรสาวและภรรยามาอยู่บริเวณหน้าร้านขายของชำในหมู่บ้านน้ำจำ และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าหิวข้าว เจ้าหน้าที่จึงให้หยิบอาหารที่ ร้านขายของชำทานและจะชำระค่าอาหารให้ ในระหว่างที่นายที หรือสาม ทานอาหาร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้อาศัยจังหวะที่นายที หรือสาม เผลอได้เข้าไปควบคุมตัว ส่วน บุตรสาวที่เป็นตัวประกันและภรรยา ได้รับความปลอดภัย

จากนั้นจึงได้นำตัวมายัง สภ.แม่สาย โดยนายที หรือนายสาม ให้การวกไปวนมา จึงได้ขอทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เบื้องต้นพบเป็นผลบวกมีสารเสพติคอยู่ในร่างกาย จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าพกพาอาวุธ(มิดไปในเมืองหรือหมู่บ้านทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร) , กระทำผิดต่อ พรบ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ตาม ม.4 ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ก่อยจะนำตัวส่งพนักงาน สอบสวน สภ.แม่สาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ณัฐวัตร ลาพิงค์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.เชียงราย รายงาน