พลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาที่กรมสรรพากร เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบการเสียภาษีของ ลุงพล-ป้าแต๋น และกลุ่มยูทูบเบอร์

พลตำรวจตรีวิชัย กล่าวว่า วันนี้ตนมายื่นเรื่องให้กรมสรรพากรทำการตรวจสอบ ลุงพล-ป้าแต๋น และกลุ่มยูทูบเบอร์ ว่าในการเผยแพร่เนื้อหาต่างๆได้รับผลประโยชน์อย่างไรหรือไม่ และผลประโยชน์นั้นที่ได้รับมีการแจ้งและเสียภาษีให้รัฐอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยตนต้องการทำให้เป็นตัวอย่างกับยูทูบเบอร์ หรือคนที่เอาความเดือดร้อนของสังคมมาใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมและศีลธรรม

พลตำรวจตรีวิชัย กล่าวอีกว่า กลุ่มยูทูบเบอร์ ทำคนเลวให้เป็นคนดี ทำคนดีให้เป็นคนเลว ทำของปลอมให้เป็นของจริง ดังนั้น สิ่งที่ได้ประโยชน์ไปจากการกระทำนี้ ก็ต้องให้รัฐตรวจสอบได้ด้วย และพลตำรวจโทเรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ก็เตรียมที่จะไปแจ้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ให้ติดตามการตรวจสอบด้วย

ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยคนกระทำผิดให้มาหารายได้ต้องทำให้เฉียบขาด ส่วนการตรวจสอบจะให้ย้อนหลังไปกี่ปีนั้น ให้เป็นอำนาจตามกฏหมายของกรมสรรพากร โดยที่ลุงพลเคยบอกว่าหลังเกิดคดีมีเงินมากกว่า 10 ล้านบาท ก็ต้องชี้แจงให้ได้ว่าร่ำรวยมาอย่างไร เพราะก่อนเกิดเหตุก็เห็นสภาพกันอยู่ว่าแม้แต่ฝาบ้านยังไม่มี ถ้าชี้แจงไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีโทษหรือไม่

พลตำรวจตรีวิชัย ยืนยันว่าการมาแจ้งให้กรมสรรพากรตรวจสอบในครั้งนี้ ไม่ใช่การแก้แค้นส่วนตัว โดยที่ตนไปออกรายการทุกรายการ ก็ไปเพื่อให้ความรู้กับประชาชน ตนไม่ได้รับเงิน และตนก็วิเคราะห์หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้วด้วย ส่วนที่ลุงพลอัดคลิปออกมาล่าสุดนั้น ตนก็ไม่สนใจที่จะดู แต่ก็มีคนมาบอก ตนก็บอกได้แค่ว่า สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล สิ่งที่พูดมาเป็นการว่าตัวเองหรือไม่

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ตนได้ไปแจ้งความกับยูทูบเบอร์ ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ สน.ดอนเมือง ตอนนี้ตนกำลังเตรียมที่จะแจ้งเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 คน และไม่ว่าใครที่เกี่ยวข้อง เอาคลิปไปไลฟ์ต่อ ก็จะโดนทั้งหมด ต่างกรรมต่างวาระ และขอยืนยันว่าไม่ต้องมาหา ไม่ต้องโทรมา ตนไม่รับโทรศัพท์ ไม่มีให้อภัย