ระทึก! รถเมล์สาย 69 พุ่งขึ้นทางเท้า ชนคนเสียชีวิต 1 เจ็บอีก 3 ราย

ระทึก! รถเมล์สาย 69 พุ่งขึ้นทางเท้า ชนคนเสียชีวิต 1 เจ็บอีก 3 ราย

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สน.พญาไท ได้รับแจ้งเหตุรถเมล์ ชนรถจักรยานยนต์ ริมถนนเพชรบุรี ขาออก แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุพบรถเมล์โดยสารปรับอากาศ สาย 69 รามคำแหง-ท่าอิฐ จอดนิ่งสนิท หน้ารถชนกำแพงสังกะสีของพื้นที่ก่อสร้างปั๊มน้ำมันพังเสียหาย ใต้ท้องรถมีซากจักรยานยนต์ไม่ทราบทะเบียนคว่ำอยู่

บริเวณหลังรถเมล์พบศพนายอภิวุฒิ อายุ 28 ปี อาชีพค้าขาย ย่านประตูน้ำ สภาพนอนคว่ำหน้า มีแผลฉีกขาดบริเวณสะโพก นอกจากนี้ ยังมี น.ส.สมิตานัน อายุ 28 ปี ซึ่งซ้อนท้ายมา ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับรถเมล์และกระเป๋ารถเมล์ มีอาการแน่นหน้าอกจากการกระแทก กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล

ต่อมา มีญาติผู้เสียชีวิตมาที่เกิดเหตุ ผู้เป็นแม่ของผู้เสียชีวิตถึงกับเข่าทรุดนั่งร้องไห้อยู่ข้างร่างของผู้เสียชีวิต จากการสอบถามญาติผู้เสียชีวิต ได้มีการเผยว่า นายอภิวุฒิ ผู้เสียชีวิต ประกอบอาชีพค้าขายเสื้อผ้าอยู่ประตูน้ำ คาดว่าจะไปธุระก่อนประสบเหตุ

ส่วนนายสุเทพ อายุ 69 ปี คนขับรถเมล์คันเกิดเหตุ ให้การว่า ขับรถมาจากแยกประตูน้ำถนนเพชรบุรี พอถึงจุดเกิดเหตุมีรถสามล้อกำลังเลี้ยวขวาไปถนนชิดลม อย่างกะทันหัน จึงหักพวงมาลัยหลบ และด้วยความตกใจจะเหยียบเบรก แต่ไปเหยียบคันเร่ง จนควบคุมรถไมอยู่ พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมทางเข้าอย่างจัง ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ด้านนายพิชัย อายุ 52 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองขับรถมาจากแยกประตูน้ำ มุ่งหน้าคลองตัน ส่วนรถเมล์ขับมาในทิศทางฝั่งถนนเพชรบุรีขาเข้า ซึ่งขณะนั้นการจราจรติดขัดอย่างมาก จู่ ๆ รถเมล์ก็หักขวาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปชนเข้ากับรถสามล้อรับจ้างที่กำลังจะเลี้ยวขวาไปทางถนนชิดลม โดยตนเองเห็นไม่ชัดว่าชนกันจากสาเหตุใด

ขณะที่ นายถนอม อายุ 60 ปี คนขับรถสามล้อ ยืนยันว่า ไม่ได้ขับตัดหน้ารถเมล์กระชั้นชิด แต่ตนเองรับผู้โดยสารวิ่งเส้นทางถนนเพชรบุรีขาออก กำลังจะเลี้ยวขวามุ่งหน้าถนนชิดลม ซึ่งการจราจรทั้ง 2 ฝั่งติดขัด รถจอดหยุดนิ่งทั้งหมด จนแม้แต่ตนเองที่กำลังรอเลี้ยวก็ยังเลี้ยวไปไม่ได้ แต่จู่ ๆ รถเมล์ก็พุ่งมาชนรถตนเองเลย ทั้งที่รถติดแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ