เปิด ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร ตามแผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย ยึดทรัพย์ 140 ล้าน
วันที่ 26 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส.ร่วมแถลงเปิด“ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon 1) ตามแผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย” ยึดทรัพย์สินเครือข่ายได้กว่า 140 ล้านบาท
สืบเนื่องตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดย บก.ปส.3, บก.ขส., บก.สกส. และ บก.ปส.1 ได้สืบสวนและจับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดข้ามชาติขณะกำลังขนยาเสพติดจากรถยนต์กระบะตู้ทึบลงเรือศรีมงคลทรัพย์ ที่บริเวณท่าเรือของบริษัทท่าเรือบางประกงจำกัด ต.บางประกง อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา พบยาเสพติดเป็นไอซ์แพ็กอัดแน่นอยู่ในถุงผลไม้อบแห้งใส่ในกล่อง ๆ ละ 24 ถุง รวมจำนวน 52 กล่อง และคีตามีนบรรจุแพ็กอัดแน่นในถุงชาใส่ในกล่อง ๆ ละ 25 ถุง จำนวน 48 กล่อง รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 2,200 กก. พร้อมควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งบนเรือและบนท่าเรือ จำนวน 14 คน จากพฤติกรรมที่พบขณะจับกุมและการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว พบผู้ร่วมกระทำความผิดขณะเกิดเหตุ จำนวน 6 คน แบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ 1)กลุ่มขับรถยนต์ลำเลียง รวม 3 คน จับกุม 2 คน หลบหนีไป 1 คน 2) กลุ่มการ์ดบนเรือ จำนวน 3 คน จับกุมได้ 2 คน หลบหนีไป 1 คน ในส่วนคนที่เหลืออีก 8 คนในที่เกิดเหตุนั้น จากการสอบสวนแล้วทำหน้าที่เป็นกัปตันเรือ ลูกเรือและช่างซ่อมเรือ มีหลักฐานการรับจ้างทำงานถูกต้อง ยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
จากการขยายผล พนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลอาญา และศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 3 คน ได้แก่ นายชานนท์ฯ หัวหน้าทีมขับรถยนต์ลำเลียง, นายศิริทรัพย์ฯ ทีมการ์ดบนเรือ (ต่อมานายศิริทรัพย์ได้เข้ามามอบตัวแล้ว) และผู้สั่งการคือนายชาญชัยฯ หรือกัปตันตุ้ย อดีตกัปตันเรือเรือที่มีชื่อเสียงระดับท็อปของประเทศไทย ที่ผันตัวมาเปิดบริษัทเดินเรือ โดยเป็นผู้บริหารจัดการลำเลียงยาเสพติดทางเรือ ครั้งนี้ได้เช่าเรือศรีมงคลทรัพย์ไปส่งยาเสพติดในน่านน้ำสากลและพบว่าเคยมีการลักลอบลำเลียงมาแล้วถึง 7 ครั้ง ในช่วงเดือน มิ.ย.-ธ.ค.66 โดยอ้างว่ามี “พ่อเลี้ยง” เป็นคนสั่งการใหญ่ที่จะเป็นผู้สั่งการนายชาญชัยฯ และทีมงานทั้งหมดนี้ และออกหมายจับนายอนุรุตฯ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญอีกคนหนึ่ง โดยเป็นลูกน้องของนายชาญชัยฯ ทำหน้าที่ในการประสานงานกับหัวหน้าการ์ดบนเรือ รวมทั้งกับพ่อเลี้ยงและนายชาญชัยฯ
ต่อมาบก.ปส.3, บก.ขส.และสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกันเปิด ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร(Poseidon 1) ภายใต้แผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย เพื่อปิดล้อมตรวจค้นจับกุม รวบรวมพยานหลักฐานและยึดทรัพย์ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 คน มีเป้าหมายจุดปิดล้อมจำนวน 10 จุด ผลการปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 1 คนคือนายอนุรุตฯ และยึดทรัพย์สินของนายชาญชัยฯ กับพวกทั้งหมด มีทั้งที่ดินและกิจการของนายชาญชัยฯ เช่น ร้านอาหารตำทะลวงและกิจการเดินเรือและกิจการอื่น ๆ เงินสด ทองแท่งและทองรูปพรรณ พระเครื่อง รถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ทาง สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ตรวจสอบเพื่อตรวจยึดทรัพย์สินตามมูลค่ารวมประมาณ 140 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. ระบุว่า ภายหลังการจับกุม ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้สืบสวนขยายผลกันมาอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มเครือข่ายนี้มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดปริมาณมากออกไปยังต่างประเทศโดยทางเรือมาแล้วหลายครั้ง ปลายทาง ได้แก่ ประเทศไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการลักลอบลำเลียง โดยเครือข่ายนี้มีลักษณะการทำงานเป็นองค์กรอาชญากรรม มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงานซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดกำลังทำการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งระดับผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ในประเทศและต่างประเทศต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน