รวบกิ๊ป บ้านช่างหล่อ รับจ้างเปิดบัญชีหลอกร่วมลงทุนซื้อชุดตรวจโควิด เสียหายกว่า 8 ล้าน

รวบกิ๊ป บ้านช่างหล่อ รับจ้างเปิดบัญชีหลอกร่วมลงทุนซื้อชุดตรวจโควิด เสียหายกว่า 8 ล้าน

ตามนโยบายปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากผ่าน เพจ สืบนครบาล IDMB ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว นางสาวกาญจนาพร หรือกิ๊ป ผู้ต้องหา ซึ่งมีพฤติการณ์ หลอกชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนซื้อชุดตรวจโควิด , หลอกขายตั๋วภาพยนตร์ , หลอกขายโค้ตป๊อปคอร์น โดยเฉพาะในการหลอกร่วมลงทุนซื้อชุดตรวจโควิด มีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8,346,974 (แปดล้านสามแสนสี่หมื่นหกพันเก้าร้อยเจ็ดสิบสี่บาท)

ต่อมาวันที่ 23 ธ.ค.66 ชุดสืบสวน PCT5 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมนางสาวกาญจนาพร หรือกิ๊ป อายุ 31 ปี ภูมิลำเนาเขตบางกอกน้อย จังหวัดกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 709/2566 ลงวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2566

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

ในชั้นจับกุม นางสาวกาญจนาพร หรือกิ๊ป ให้การภาคเสธ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการข้อหาฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ แต่ยอมรับว่า เมื่อช่วงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ได้มีบุคคลซึ่งรู้จักกับผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายบัญชีธนาคาร ชื่อกลุ่ม ซื้อ/ขายบัญชีธนาคาร ชื่อเล่นว่า ส้ม ซึ่งขณะนั้นใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊กว่า สายป่าน สายหยุด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อบัญชีมาใช้ชื่อบัญชี เมื่อมีนัด สายเสมอ ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง คือ น.ส.อลิษา อายุ 32 ปี ได้มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กกลุ่มซื้อบัญชีธนาคารกลุ่มดังกล่าว ว่า ขอคนพร้อมทำ ทหารไทย 3 เล่ม กทม. ลาดพร้าว บางกะปิ เมื่อตนเห็นจึงเกิดความสนใจ เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงสถานการณ์โควิด ตนไม่เงินใช้จ่าย จึงได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวทักไปหา น.ส.ส้ม ว่าตนสนใจที่จะเปิดบัญชีธนาคารให้ น.ส.ส้ม เสนอค่าจ้างในการเปิดบัญชีให้ 1,500 บาท เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ตนได้ถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนส่งให้ น.ส.ส้ม เพื่อตรวจสอบประวัติคดี เมื่อตรวจสอบประวัติคดีผ่าน น.ส.ส้ม ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนเพื่อไว้ติดต่อและนัดหมายสถานที่เพื่อไปทำการเปิดบัญชีที่ธนาคาร โดยนัดหมายกับเปิดบัญชีที่ ธนาคารทหารไทย สาขาห้างเซ็นทรัลบางนา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 นอกจากนี้ บางครั้ง น.ส.ส้ม ยังจ้างให้ตนทำหน้าที่โทรศัพท์หาธนาคารต่างๆซึ่งเป็นธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อเช็กสถานะบัญชีของบุคคลที่ น.ส.ส้ม จ้างให้เปิดบัญชีเพื่อทราบว่าบัญชีธนาคารที่จ้างเปิดแต่ละบัญชีนั้นมีความเคลื่อนไหวทางบัญชีหรือไม่ อย่างไร โดยได้ค่าจ่างครั้งละ 500 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 ซึ่งเป็นวันที่ตนถูกจับตามหมายจับในความผิดฐาน โดยทุจริต นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง ตนได้ทักเฟซบุ๊กไปหา น.ส.ส้ม เพื่อแจ้งว่าตนถูกจับ ปรากฏ น.ส.ส้ม ได้พิมพ์ข้อความตอบกลับมาว่า ซื้อเฟซบุ๊กต่อมา ไม่ทราบเรื่องว่าผู้ใช้คนเก่าใช้ทำอะไรมา และอีกประมาณ 1 – 2 อาทิตย์ เฟซบุ๊กดังกล่าวที่ น.ส.ส้ม เคยใช้คุยกับตนก็ทำการปิดกั้นเฟซบุ๊กตน ทำให้ไม่สามารถติดต่อ น.ส.ส้ม ได้อีกเลย จนมาถูกจับกุมในครั้งนี้

ที่ผ่านมาตนเคยรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารมาแล้วประมาณ 4 บัญชี ประกอบด้วย บัญชีธนาคารไทยพาณชย์ บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา , บัญชีธนาคารธนชาตทหารไทย และบัญชีธนาคารกสิกรไทย ทุกบัญชีไม่สามารถจำเลขที่บัญชีธนาคารได้

จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่านางสาวกาญจนาพร หรือกิ๊ป เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล จำนวน 3 คดี ประกอบด้วย

1) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ จ.135/2565 ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ สถานะถูกจับกุม

2) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 345/2566 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ สถานะถูกจับกุม

3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 709/2566 ลงวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นางสาวกาญจนาพร หรือกิ๊ป ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ปทุมธานีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ