กรมอุตุฯ เตือน ทั้งฝนทั้งหนาว ฝนถล่ม-ลมแรง
วันนี้ (20ธ.ค.66) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่4 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 20-25 ธ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5–8 องศาเซลเซียส ภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4–6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง
รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3–5 องศาเซลเซียส และ ภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 2–4 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยของภาคเหนือ มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3–10 องศาเซลเซียส และ มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ส่วนยอดภูของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-13 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัย ที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และ ภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 22–25 ธ.ค. 66 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่าง และ ประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 22-25 ธ.ค. 66 โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และ ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ผ่านเว็บไซต์ http://www.tmd.go.th หรือ ที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง