นักปั่นจักรยานขี่ข้ามทางรถไฟเสียหลักล้ม โดนรถพ่วง 18 ล้อขับแซง ทับศีรษะเสียชีวิตคาที่
วันนี้ (17 ธ.ค. 2566) สภ.ย่อยนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทับนักปั่นจักรยาน เหตุเกิดบริเวณทางพาดรถไฟหนองแด ถนนมิตรภาพอุดรธานี-หนองคายฝั่งขาเข้าเมือง ต.กุดสระ หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน จึงรุดเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยี่ห้อพานาโซนิค สีบรอนเงิน ข้างกันพบร่างของนายหนูกร ศรีฝ้าย อายุ 57 ปี ชาว อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี สวมชุดนักปั่นจักรยานนอนคว่ำหน้าอยู่ริมถนน ตรวจสอบศีรษะถูกล้อรถพ่วงทับหมวกกันน็อกทำให้กะโหลกแตก ห่างไปประมาณ 500 เมตร พบรถบรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีขาว ทะเบียนอุดรธานี จอดอยู่ริมถนน โดยมีนายสุรเดช อินศรี อายุ 48 ปี ชาว อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ เป็นผู้ขับ รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถาม นายสยมภู พูนเพิ่ม 63 ปี เพื่อนร่วมชมรมปั่นจักรยานอุดรธานี เล่าว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการป่วย ทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง จึงหันมาปั่นจักรยานเพื่อเป็นการออกกำลังกายและบำบัดอาการป่วย โดยจะนัดกันมาปั่นทุกวันอาทิตย์ และปกติจะปั่นจักรยานกันรอบสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม
แต่วันนี้ตนและนายหนูกรได้พากันปั่นไปบ้านน้ำสวย ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย และช่วงขากลับเข้าตัวเมืองอุดรธานี พอปั่นจักรยานมาถึงทางรถไฟหนองแด นายหนูกรได้ปั่นจักรยานนำหน้าตน จากนั้นจักรยานของนายหนูกรเสียหลักล้มลงกับพื้นถนน จากนั้นก็มีรถพ่วง 18 ล้อ ขี่ตามมาทับศีรษะเสียชีวิตทันที
ด้านนายสุรเดช คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เล่าว่า ตนขับรถพ่วงออกจากโกดังในซอยข้างห้างขายวัสดุแห่งหนึ่งที่บ้านท่าตูมทอง ถ.มิตรภาพอุดรธานี-หนองคาย ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี เพื่อไปขึ้นสินค้าที่ อ.หนองวัวซอ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนเห็นจักรยาน 2 คัน ปั่นอยู่ด้านหน้า จากนั้นตนก็ขับแซงขึ้นมา
ตนไม่รู้ว่าจังหวะที่ขับแซงขึ้นมา แล้วจักรยานเสียหลักล้มและล้อลูกพ่วงด้านซ้ายทับคนปั่นจักรยาน จนมีพลเมืองดีขับตามมา แล้วบอกว่ารถของตนเหยียบคนปั่นจักรยาน ตนจึงจอดรถแล้วลงไปดู ตนรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้มีใครต้องเสียชีวิต อยากจะขอโทษญาติผู้เสียชีวิต เพราะตนไม่ได้ตั้งใจมันเป็นอุบัติเหตุ
เบื้องต้นตำรวจสันนิฐานว่า ผู้เสียชีวิตปั่นจักรยานมาถึงทางพาดรถไฟหนองแดแล้วล้อรถจักรยานลงไปในร่องรางรถไฟ จึงทำให้เสียหลักล้มลงพื้น ขณะที่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ กำลังขับแซงขึ้นมา ปรากฏว่าล้อรถพ่วงด้านซ้ายไปทับศีรษะผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จะมีการสอบปากคำเพื่อนผู้เสียชีวิตและคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป