เศรษฐา ประกาศข่าวดี ลั่นมาแน่
วันที่ 13 ธ.ค.2566 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้านโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทว่า ตามที่ออกแบบผ่านกลไกให้ตรวจสอบได้ ทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา ผ่านสภาฯ เพื่อให้ฝ่ายบริหารถูกซักถาม และให้สังคมหมดข้อกังวล
โดยจะเริ่มอย่างเร็วที่สุดในเดือน พ.ค.2567 แต่ตนอยากให้เร็วกว่านี้ แต่เพื่อให้ถูกต้อง และสบายใจ จะเริ่มเงินดิจิทัลได้คือ เดือนพ.ค.67
ส่วนแหล่งเงินที่ใช้ในโครงการเงินดิจิทัลนั้น จะออกเป็นพ.ร.บ.เงินกู้ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว โดยจะเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยอีก 100,000 แสนล้านบาท เพื่อนำไปดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย และทำควบคู่ไปกับดิจิทัลวอลเล็ต
ขณะที่เงื่อนไขดิจิทัลวอลเล็ตที่ออกมา คือ ต้องไม่มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท และเงินเดือนต้องไม่เกิน 70,000 บาท เป็นข้อคิดเห็นโดยนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ว่าไม่ควรได้ทั้งหมด คนรวยไม่ควรได้ ซึ่งตอนนี้ล่าช้าออกไปเพราะกำลังดูว่า คนรวยคืออะไร แค่ไหนถึงรวย ยังไม่มีใครบอกได้ ถึงจุดหนึ่งต้องฟันธงใครได้หรือไม่ได้อย่างไร
ด้านหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ยอมรับว่าจะเพิ่มขึ้นบ้าง จากหนี้สาธารณะ 62% เป็น 64.8% ต่อจีดีพี ซึ่งยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง โดยจะเป็นหนี้สาธารณะส่วนหนึ่ง มีการใช้หนี้ต่อไป แต่ก็มีการกระตุ้นลงทุนต่างประเทศ เปิดการลงทุน การค้า เพื่อให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)สูงขึ้น และทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะลดลงได้ เป็นหนึ่งในอีกหลายนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม
นายกฯ กล่าวว่า เงินดิจิทัลกว่า 5 แสนล้านบาท ตัวคูณทางเศรษฐกิจ ทางผู้ว่าการธปท.ได้ให้ความเห็น ตนก็เห็นด้วยและถูกต้อง ถ้ามีเงินเยอะ ถ้าแจกคนรวยไป ผลคูณต่อเศรษฐกิจจะต่ำ ถ้าคนรายได้น้อยจะมีตัวคูณต่อเศรษฐกิจสูง แต่อีกมิติหนึ่งคือ ถ้าเริ่ม 1 พ.ค.67 มีกว่า 5 แสนล้านบาท จะส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมเพราะจะเร่งการผลิต มีรายได้เพิ่ม มีผลิตผลเพิ่มขึ้น
เชื่อว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน จำกัดพื้นที่ จะมีความเจริญในพื้นที่ ภายใน 1 อำเภอ ซึ่งจากที่ลงพื้นที่มั่นใจว่าประชาชนต้องการส่วนนี้” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ใกล้ปีใหม่แล้ว นายกฯ มีของขวัญพิเศษให้กับคนไทยทั้งประเทศได้เซอร์ไพรส์ บ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ฉะนั้น ความสุขของประชาชน และสิ่งที่ประชาชนอยากได้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ความจริงไม่ใช่แค่ขึ้นค่าแรง ราคาพืชผล อากาศสะอาดเท่านั้น เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้ต้องทำให้ได้
ให้คำมั่นว่ารัฐบาลนี้จะเอาความต้องการของประชาชน จะเอาปัญหาประชาชนเป็นที่ตั้ง ครม.ทุกท่านจะทำงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ จะนำปัญหาต่างๆ ที่พูดคุยกันในพื้นที่เอามาแก้ไขทุกปัญหาของประชาชนให้ได้” นายกฯกล่าว