กู้ภัยเพชรเกษมกรุงเทพฯ ร้อง สพฉ. ถูกศูนย์เอราวัณ สั่งห้ามช่วยผู้ป่วยใน กทม.
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นายบัญชา ศีลนิลพันธ์ รองประธานมูลนิธิเพชรเกษม พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจำนวนกว่า 100 นาย เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. หลังศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร ออกคำสั่งให้มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ หยุดรับส่งผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยรองประธานมูลนิธิเพชรเกษม กล่าวว่า การออกหนังสือสั่งห้ามช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ของศูนย์เอราวัณไม่ชอบธรรม จึงจำเป็นต้องทำหนังสือมายัง สพฉ. เพื่อให้พิจารณาและดำเนินการขึ้นระบบการแพทย์ฉุกเฉินของกรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือประชาชนในเขต กทม. มานาน 7 ปีแล้ว ซึ่งก็พยายามพัฒนาบุคลากรและก่อสร้างสำนักงานให้ถูกต้องตามระเบียบของการขอขึ้นระบบอย่างครบถ้วน แต่กลับถูกศูนย์เอราวัณเพิกเฉยถึง 5 ครั้ง โดยให้เหตุผลว่า 8 องค์กรที่ขึ้นระบบอยู่เดิมคัดค้านไม่ให้มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ เข้าสู่ระบบการแพทย์ฉุกเฉินของกรุงเทพฯ
สำหรับข้อคัดค้านที่ศูนย์เอราวัณ แจ้งกลับมายังมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ ระบุว่า ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีความพร้อมเพียงพอแล้วที่จะช่วยเหลือประชาชนด้านการแพทย์ฉุกเฉิน จึงมีความเห็นไม่ให้ขึ้นระบบถูกต้อง และหากมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ ยังช่วยเหลือประชาชนในเขตกรุงเทพฯ จะแจ้งไปยัง สพฉ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี แต่รองประธานมูลนิธิเพชรเกษม ยืนยันว่า จะออกช่วยเหลือประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ต่อไป เพราะไม่มีกฎหมายข้อไหน ระบุว่าห้ามช่วยประชาชน และหากการนำผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยส่งไปยังโรงพยาบาลเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย ให้นำเจ้าหน้าที่มาจับกุมได้เลย
ด้านนายพงษ์พิษณุ ศรีธรรมานุสาร ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน พื้นที่ 3 เป็นตัวแทน สพฉ. รับหนังสือ ได้กล่าวว่า สพฉ. มีคณะกรรมการพิจารณารับเรื่องร้องเรียน เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและประสานผู้เกี่ยวข้องเข้าหารือ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยระหว่างนี้มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ ยังคงสามารถออกช่วยเหลือประชาชนได้ในนามของภาคประชาชน
ทั้งนี้ มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ เป็นหน่วยงานที่จดจัดตั้งมูลนิธิกับกระทรวงมหาดไทยถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในการจัดผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ จะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งในกรณีนี้คือศูนย์เอราวัณการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพฯ จึงทำให้ปัจจุบันเป็นการช่วยเหลือแบบภาคประชาชน เพราะศูนย์เอราวัณไม่รับรองด้านกฏหมายการช่วยเหลือ