ศาลสั่งชดใช้ค่าเสียหาย 6.4 ล้าน เลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2566 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการเปิดเผยว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ดำเนินการสำรวจการเลี้ยงปศุสัตว์ (โค กระบือ แพะ และแกะ) ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อขอความร่วมมือผู้นำชุมชน และประชาชนไม่ให้มีการเผาป่า สำหรับใช้เป็นพื้นที่เลี้ยงปศุสัตว์หรือเผาในพื้นที่เลี้ยงปศุสัตว์จนลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่า
รวมถึงขอความร่วมมือห้ามนำสัตว์เข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยให้เลี้ยงเฉพาะในพื้นที่ควบคุมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น หากพบว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนให้เป็นอันตรายต่อพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่นำปศุสัตว์ไปเลี้ยงในเขตป่าอนุรักษ์มาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2560 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือได้จับกุมและดำเนินคดีกับนายลิขิต ซึ่งได้นำวัว 55 ตัว มาเลี้ยงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีการจัดทำบันทึกแจ้งความต่อ สภ.แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ศาลได้มีคำพิพากษาให้นายลิขิต จำคุก 4 ปี ปรับ 200,000 บาท จำเลยให้รับสารภาพ รับโทษกึ่งหนึ่ง คือ จำคุก 2 ปี ปรับ 100,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหายให้รัฐ 6,420,426 บาท
นอกจากนี้ นายอรรถพล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ เข้มงวด บังคับใช้กฎหมายการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติและกฎหมายเกี่ยวกับการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม การเผาป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ยังมีโทษปรับสูงสุด 2 ล้านบาท และจำคุก 20 ปี ทั้งนี้ สำหรับผู้เลี้ยงปศุสัตว์รายเล็กรายน้อย เพื่อการยังชีพ กรมอุทยานฯจะผ่อนปรนให้ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามข้อระเบียบกฎหมาย