วันที่ 4 ธ.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งว่ามีผู้พลัดตกจากสะพานพระราม 3 ถนนมไหสวรรย์ แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ลงมาสู่พื้นล่างถนนเป็นชาย 1 ราย ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จึงเร่งรัดจัดกำลัง พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ที่เกิดเหตุ บริเวณทางสวนหย่อมใต้สะพานพระราม 3 พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นาย ชัยวัฒน์ ทิพฤาตรี อายุ 28 ปี นอนจมกองเลือดในลักษณะนอนหงายหน้าอยู่บนพื้นถนน พบบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณศรีษะ มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และบริเวณขาท่อนบนข้างซ้ายหักผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด สัญญานชีพอ่อน อาสาสมัครจึงเร่งให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการทำ CPR ฟื้นคืนชีพเป็นการเร่งด่วน แล้วรีบประสานต่อหน่วยกู้ชีพในระบบเอราวัณทันที นำส่งที่โรงพยาบาลเจริญกรุงทันที

ต่อมา อาสาสมัครได้พบรถจักรยานยนต์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ด้านท้ายเบาะรถจักรยานยนต์มีกล่องใส่อาหารร้อนเย็น สีดำ 1 ใบ ซึ่งเป็นของผู้ได้รับบาดเจ็บจอดอยู่บริเวณขอบสะพาน ซึ่งมีความสูงจากพื้นด้านล่างตรงบริเวณจุดที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บเทียบเท่ากับอาคารที่มีความสูงประมาณ 7 - 8 ชั้น และจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบแฟนสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ในอาการตกใจสุดขีดกรีดร้องระงม พูดจาวกไปวนมาจับใจความไม่ได้

จากการสอบถาม นาย เลิศชัย นรินทรกุล ณ อยุธยา อายุ 43 ปี อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู จุด สน.วัดพระยาไกร บอกเล่าว่า ตนได้รับแจ้งว่ามีผู้ตกจากสะพานพระราม 3 ฝั่งถนนตก บริเวณทางเข้าวัดลาดบัวขาว จึงรีบมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ มาถึงก็พบว่า ผู้บาดเจ็บนอนหงายอยู่กับพื้นถนนใต้สะพานพระราม 3 ขาข้างซ้ายด้านบนผิดรูป ที่ศรีษะมีเลือดไหลจำนวนมาก ตนจึงรีบตรวจสอบชีพจร และเนื้อตัวยังอุ่นอยู่ จังหวะนั้นมีรถพยาบาลผ่านมาแล้ว คุณหมอก็ได้ลงมาช่วยดูอาการ

ส่วนทางด้านบนสะพานก็พบว่ามีคนยืนชะโงกดูลงมาจึงเกรงว่า จะเกิดเหตุด้วย จึงให้อาสาอีกคันนึงรีบขึ้นไปตรวจสอบ ก็พบว่า มีผู้หญิงยืนอยู่กับรถจักรยานยนต์ ในอาการช็อกทำไรไม่ถูก จึงพาตัวลงมาด้านล่าง พอสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า เป็นแฟนกัน ขี่รถซ้อนกันมาคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอ ไหนจะค่าบ้านค่ารถ จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย แล้วก็จอดรถ เดินลงมากระโดดต่อหน้าต่อตา พอเห็นแบบนั้นก็ช็อกตกใจ แต่ยังพอมีสติรีบโทรแจ้งตำรวจได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัวแฟนสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ สน. อย่างละเอียดอีกครั้ง และในขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวได้ ต้องรอการตรวจสอบจากสภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุและต้องตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบก่อน ถึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป