ไม่ทันได้ไปงานแต่งลูก ลุงเดช เสียชีวิต กะทันหัน

ไม่ทันได้ไปงานแต่งลูก ลุงเดช เสียชีวิต กะทันหัน

นายเดช บุตรทอง อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดอาสาสมัครเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ นอนเสียชีวิตภายในสวนปาล์มของชาวบ้านในหมู่บ้านป่าไม้สหกรณ์ ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ในสภาพสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว สวมหมวกไหมพรม และห่มผ้ามิดชิด บนที่นอนแบบปิคนิก  อยู่ใกล้กับกองไฟที่จุดไว้ไล่ยุงและสร้างความอบอุ่น โดยจากการตรวจสภาพศพไม่พบร่องรอยจากการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะพักผ่อนน้อยประกอบกับช่วงนี้สภาพอากาศหนาวเย็นด้วย  อาจจะทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งทางญาติก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

ทางครอบครัวจึงได้นำศพของนายเดช ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 บ้านป่าไม้สหกรณ์ ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง  ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว  ขณะชาวบ้านที่ทราบข่าวโดยเฉพาะคนที่เป็นอาสาสมัครร่วมเฝ้าระวังผลักดันช้างด้วยกัน  ต่างทยอยมาแสดงความเสียใจและเคารพศพนายเดช  อย่างต่อเนื่อง

จากการสอบถามนายรุ่งทิวา อบอุ่น อายุ 30 ปี หลานผู้ตาย และเป็นหนึ่งในอาสาสมัครผลักดันช้างป่าทำงานอยู่ในชุดเดียวกันกับผู้ตาย เล่าว่า  ช่วงบ่ายวันเกิดเหตุ ลุงเดช ได้โทรศัพท์มาหาช่วงประมาณ 15:00 น บอกว่ามีช้างป่าออกมานอกเขตป่า ให้ตนเข้าไปช่วยผลักดันขับไล่ ซึ่งตนก็ตามไปทีหลัง ก็พบว่ามีช้างออกมาจริง จากนั้นก็ช่วยกันไปผลักดันขับไล่ช้างกลับคืนสู่ป่า  พอช่วงเย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน และออกมาเฝ้าระวังอีกทีตอนช่วงกลางคืน แต่ทุกคนก็บอกให้ลุงเดชนอนพักผ่อนก่อน เพราะลุงเดช ทำงานยังไม่ได้พัก พวกตนจึงอาสาออกไปขับไล่ช้างเอง พอกลับมาก็ยังเห็นลุงเดชนอนอยู่บนที่นอนพับปิคนิคใกล้กองไฟ จนกระทั่งช่วงประมาณตี 05:00 น. ทุกคนไปปลุกเพื่อให้กลับบ้านก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ก็รีบแจ้งเจ้หน้าที่ไปตรวจสอบ คาดว่าน่าจะเกิดจากการพักผ่อนน้อยเพราะลุงเดช ต้องทำงานรับจ้างและเป็นอาสาเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าด้วย ทั้งยังเป็นจิตอาสาอีกหลายอย่างจึงไม่ค่อยได้พักผ่อน  ประกอบกับช่วงนี้อากาศหนาวเย็นด้วย อาจทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันก็เสียใจเพราะลุงเดชเป็นคนดี

ด้านนายพิษณุ ดิเรกกุล อายุ 65 ปี อดีตข้าราชการบำนาญ และเป็นเพื่อนบ้านของลุงเดช บอกว่า รู้สึกใจหาย เพราะผู้ตายเป็นคนที่มีจิตอาสาชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านรักและชื่นชมในความมีจิตอาสา และการที่ผู้ตายเป็นผู้ก่อตั้งชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่าตั้งแต่ปี 2560 ก็มีชาวบ้านมาร่วมเป็นอาสาสมัครหลายคน ผู้ตายก็เสียสละออกเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าตลอด ทั้งกลางวันกลางคืนถึงแม้จะไม่ได้มีรายได้หรือสวัสดิการอะไร แต่พวกเขาทำด้วยจิตอาสา ส่วนตัวจึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐได้เล็งเห็นในความเสียสละของคนกลุ่มนี้ อย่างน้อยควรจะมีสวัสดิการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพวกเขาด้วย รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านนี้ควรจะดูแลด้วยเช่นกัน เพื่อพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการทำงาน

ส่วนนางยุพิน บุตรทอง อายุ 52 ปี ภรรยาลุงเดช บอกว่า สามีเป็นคนจริงจังกับการช่วยเหลือสังคมมาก ไม่ว่าจะกิจกรรมอะไร โดยเฉพาะการเป็นอาสาผลักดันช้างป่า สามีจะออกเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าทุกคืน เวลาที่ชาวบ้านโทรมาว่าเห็นช้างออกมากินพืชสวนพืชไร่ตรงไหน สามีจะออกไปผลักดันขับไล่ทันที ก็ภูมิใจในตัวสามีที่ทำงานเพื่อสังคม แต่ก็เสียใจที่ต้องมาจากไปเร็ว โดยเฉพาะวันที่ 1 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ลูกสาวคนเล็กกำลังจะแต่งงาน แต่พ่อก็ไม่ทันได้อยู่ร่วมงานมงคลของลูกสาว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ