ชาวบ้านสงสัย เห็นคนขับรถส่ายไปส่ายมา เรียกเจ้าหน้าที่มาดู เห็นหน้าคนขับ ชาวบ้านถึงกับส่ายหน้า รับไม่ได้
วันที่ 16 พ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบคนแต่งกายคล้ายพระสงฆ์มีอาการมึนเมาขับรถยนต์ที่บ้านหนองบุ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี กำลังมุ่งหน้าออกจากตัวเมืองอุดรธานี โดยขัยรถ Honda City สีเขียวทะเบียน กน 7202 มหาสารคาม หลังรับแจ้งตำรวจจึงวิทยุแจ้งให้กำลังในพื้นที่ช่วยตามหา กระทั่งสามารถติดตามมาพบเจอทั้ง 2 ใกล้เขตงานหนองบัว บ้านหนองใส ขณะที่จอดรถพักอยู่ใกล้กับริมถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบทันที
จากการตรวจสอบพบพระสงฆ์ 2 รูป คือ พระคมสันต์ สิริรภัทโท อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 394 หมู่ 3 บ้านเหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด มีอาการเมามากพูดจาไม่รู้เรื่อง แถมชี้หน้าด่านักข่าว อาตมาผิดตรงไหน และอีกรูปคือพระอุทัย นาราวงศ์ อายุ 39 ปี อยู่วัดศรีเชียงใหม่ หมู่ 8 ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้ต่อว่าพระคมสันต์บอกว่า เจ้าอย่าปาก ให้เงียบๆ คุยกับเจ้าหน้าที่ก่อน เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบภายในรถพระขวดเครื่องดื่มชูกำลังและขวดสุราขาวภายในขวดมีรากไม้สำหรับดองยา ตกอยู่ที่พื้นที่ฝั่งผู้โดยสาร และท้ายรถพบขวดเหล้าขาวอีกหลายขวดและมีลังเบียร์ มีบาตรพระและสบงหลายชิ้น ส่วนภายในห้องโดยสามีผ้าห่ม และจีวร
พระอุทัยและพระคมสัจต์ ดูท่าเมาจนปลิ้นลิ้นรัวบอกว่า อาตมาพากันเพิ่งกลับมาจากงานบุญกฐินวัดหนองบ่อ บ้านดงยาง ต.จอมศรี อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และจะพาไปกันเยี่ยมโยมพ่อโยมแม่ของพระคมสันต์ที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัยและจะกลับวัดที่จ.ร้อยเอ็ด แต่หลังเสร็จงานกฐินพากันขับมาไกล เห็นรถมันเหนื่อยเลยพากันจอดพัก จนมีเจ้าหน้าที่ตร.มาตรวจสอบนี่แหละโยม ขณะที่พระอุทัย บอกกับเจ้าหน้าที่อีกว่า ช่วยลุกหลานหน่อยเถอะ ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ยอมรับเมาไปหน่อยหลังไปฉลองงานบุญกฐิน แถมยังย้ำขอให้ปล่อยตัวไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ไปจากนั้นจึงประสานผู้บังคับบัญชาและนำรถมาพาตัวทำการสึกยังวัดมัชฌิมาวาส ทั้งนี้ช่วงการพูดคุยพระคมสันฯ ซึ่งอยู่ในอาการเมาได้ยื่นเงินเพื่อติดสินบนเจ้าหน้าที่แลกกับการปล่อยตัวแต่เจ้าหน้าที่ไม่รับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพระ 2 รูปนี้ไปสงบสติที่วัดมัชฌิมาวาส อ.เมืองอุดรธานี และทำการสึกทันที่โดยไม่ต้องรอพระผู้ใหญ่เนื่องจากทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง
เมื่อไปถึงวัดพระคมสัน สิริรภัทโท ได้ยินยอมสึกต่อหน้าคณะสงฆ์โดยดี แต่ตอนไหว้รับผิดก็ยังพนมมือเซไปเซมา ส่วนพระอุทัย นาราวงศ์ ไม่ยอมสึกโดยอ้างว่าไม่เมา ตำรวจจึงเชิญตัวไปยัง สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่เมื่อไปถึงพระอุทัยฯ กลับไม่ยอมตรวจอีก สักพักพระอุทัยฯ จึงยินยอมที่จะสึกจากการเป็นพระโดยปริยาย