ศาลฎีกาพิพากษากลับสั่ง ทบ.ชดใช้เงิน 2 ล้านบาท คดี ชัยภูมิ ป่าแส ถูกทหารยิงเสียชีวิตคาด่าน
จากกรณี นายชัยภูมิ ป่าแส หรือ จะอุ๊ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ชาติพันธุ์ลาหู่ ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนเชียงดาววิทยาคม อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ถูกทหารตั้งด่านบริเวณด่านบ้านรินหลวง ยิงเสียชีวิต โดยทหารที่ก่อเหตุกล่าวอ้างว่าพบห่อยาเสพติดจำนวน 2,800 เม็ด ซุกซ่อนในรถที่นายชัยภูมิขับมา และชัยภูมิได้ขัดขืนการจับกุม ควักระเบิดจะขว้างใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำการวิสามัญนายชัยภูมิ ป่าแส
ต่อมา นางนาปอย ป่าแส มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส เป็นโจทก์ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. 2539 ต่อกองทัพบก เป็นจำเลย เมื่อปี 2562 ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายกฟ้อง ทำให้กองทัพบกไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่นาปอย ป่าแส
เนื่องจากเห็นว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารกระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ซึ่งต่อมาครอบครัวของนายชัยภูมิ ป่าแส ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา และต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งรับฎีกา ระบุฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย จึงมีคำสั่งรับฎีกาไว้พิจารณา
ล่าสุด มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้มีการเปิดเผยว่า ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษา คดีชัยภูมิ ป่าแส ถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่รัฐทหาร เมื่อปี 2560 ณ ศาลแพ่ง (ถนนรัชดาภิเษก ) โดยคดีนี้ นางนาปอย ป่าแส มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส เป็นโจทก์ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย โดยศาลฎีกาพิพากษา สั่งให้กองทัพบก ชดเชยค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนเงิน 2,072,400 บาท
และโจทก์มีสิทธิ์เรียกดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดในอัตราที่กฎหมายกำหนดนับแต่วันละเมิดเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระแล้วเสร็จ พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 2,072,400 บาท พร้อมดอกเบี้ย จากนั้นจึงออกหมายบังคับคดีพร้อมออกคำบังคับตามคำพิพากษาต่อไป
เรียบเรียง siamnews