ยายน้ำตาร่วง! กู้เงินสหกรณ์ฯ 6 หมื่นบาท เจอเรียกเก็บหนี้ 4.8 แสนบาท
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2566 นางอุบล หรือ ยายบล อายุ 73 ปี ชาวตำบลเจริญสุข จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานมาให้สื่อดู เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจากปี 2555 ได้ไปกู้ยืมเงินสหกรณ์การเกษตร กรป. กลาง นพค.บุรีรัมย์ จำกัด จำนวน 6 หมื่นบาท
ต่อมา ปี 2558 เจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ ได้เรียกให้ไปทำสัญญากู้เงินใหม่ ยอดเงินกู้กลับเพิ่มเป็น 270,000 บาท โดยไม่ทราบว่าทำไมยอดถึงเพิ่มขึ้นทั้งที่ไม่ได้กู้เพิ่ม พร้อมนำโฉนดที่ดินจำนวน 2 แปลง เป็นที่สวนและที่บ้านไปวางค้ำประกันด้วย และที่ผ่านมาก็จ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือนบ้างรายปีบ้าง แต่ตอนนั้นไม่กล้าทักท้วงอะไร โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ให้เซ็นเอกสารอะไรก็เซ็น
กระทั่งล่าสุดปีนี้ มีหนังสือจากทางสหกรณ์ ฯ มาติดตามทวงถามให้ชำระเงินกู้ทั้งต้นและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 483,799 บาท ภายในวันที่ 31 มี.ค.2567 ก็ตกใจว่าทำไมยอดถึงสูงผิดปกติ ทั้งที่ตอนแรกกู้แค่ 60,000 บาทเท่านั้น ตนจึงอยากให้มีการตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย เพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ ทั้งกลัวจะถูกยึดบ้านและที่ดินทั้ง 2 แปลงที่นำไปวางค้ำประกันด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ อธิบายว่านางอุบล ค้างดอกเบี้ยทบต้นทบดอก เมื่อรวมกับเบี้ยปรับค้างชำระ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งดอกเบี้ยปกติอยู่ที่ร้อยละ 10 ต่อปี แต่หากผิดนัดไม่ส่งต้นและดอกเบี้ย ภายในวันที่ 31 มี.ค.ของทุกปี จะปรับดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 11 บาทต่อปี และมีเบี้ยปรับอีกร้อยละ 3 บาทต่อปี รวมเป็นร้อยละ 14 บาทต่อปี จึงทำให้ยอดหนี้สูงถึงกว่า 480,000 บาท แต่หากลูกหนี้เข้ามาทำเรื่องขอผ่อนผันหนี้กับทางสหกรณ์ฯ ก็พร้อมให้การช่วยเหลือตามระเบียบ
เรียบเรียง siamnews