บุกจับฤาษี กายแก้ว อดีตทหารจบหลักสูตรรบพิเศษ มือปืนหนีคดีรับงานยิงคู่อริแก๊งค้ายาเสพติด
กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจทางหลวง(บก.ทล.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม สิบโท เมธฤต หรือ สุนทรฯ (เสืออ้อย) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดลำพูนที่ จ.221/2563 ลงวันที่ 4 พ.ย.63 ผู้ต้องหาตามประกาศสืบจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ลำดับที่ 105 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” สถานที่จับกุม บริเวณถนนภายในซอยหมู่บ้านลุงปุง หมู่ 2 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
พฤติการณ์เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ได้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิง นายมณฑลฯ กับ น.ส.อราชัญฯ บริเวณถนนทางหลวงชนบทบ้านสันวิไล หมู่ 17 ต.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีไป จากการสืบสวนทราบว่ามี นายสุรพงศ์ฯ และ นายรุ่งโรจน์ฯ ร่วมกับทีมสังหารมี นายเกรียงไกรฯ, นายบุญทวีฯ และชายไม่ทราบชื่อ ลักษณะคล้ายทหารหรือตำรวจผมสั้นเกรียน รวม 5 คน ได้รับคำสั่งจากนายพงษ์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เป็นชาวเขาเผ่าลีซอ ได้ร่วมกันวางแผนโดยให้นายสุรพงศ์ฯ ใช้ให้นายรุ่งโรจน์ฯ โทรศัพท์ล่อ นายมณฑลฯ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ออกมาเพื่อที่จะให้นายสุรพงศ์ฯ และทีมสังหาร ใช้อาวุธสงครามที่ใช้กระสุน ขนาด 5.56 ยิงหลายนัด กระสุนปืนถูกนายมณฑลฯ ที่บริเวณโคนขาด้านในข้างซ้ายและถูก น.ส.อราชัญฯ
ที่บริเวณหัวเข่าซ้าย น่องขวา และบริเวณข้อมือ กลุ่มคนร้ายได้แยกย้ายกันหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายสุรพงศ์ฯ และนายรุ่งโรจน์ฯ ได้ ทำการสอบสวนขยายผลทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองรายเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่อาจมีการขัดผลประโยชน์กับ นายพงษ์ฯ ผู้สั่งการ และให้การว่าชายไม่ทราบชื่อ ลักษณะคล้ายทหารหรือตำรวจผมสั้นเกรียน หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ คือ สิบโท เมธฤต หรือ สุนทรฯ(ผู้ต้องหาในนี้) ได้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้ด้วย จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดลำพูน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ เนื่องจากเป็นการกระทำอันอุกอาจ มีการก่อเหตุในลักษณะของมือปืนรับจ้าง รับงานจากผู้มีอิทธิพล ใช้อาวุธสงครามทำอันตรายต่อบุคคลอื่น จากการสืบสวนทราบว่า สิบโท เมธฤตฯ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกจับกุม ได้หลบหนีมาบวช เปิดสำนักฤาษี ไว้หนวดเครา ไว้ผมยาวรุงรัง เล็บยาวสีแดงเหมือนฤาษีกายแก้ว กบดานอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ตะเข็บชายแดนกัมพูชา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาตัว ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้นอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นชายไทยมีลักษณะตำหนิรูปพรรณใบหน้าตรงกับ สิบโท เมธฤตฯ เดินอยู่บนถนนภายในซอยหมู่บ้านลุงปุง หมู่ 2 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จว.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เรียกให้บุคคลดังกล่าวหยุด และเข้าไปแสดงตัว และสอบถามจนทราบว่าชายคนดังกล่าว คือ สิบโท เมธฤต หรือ สุนทรฯ (ผู้ต้องหานี้) บุคคลตามหมายจับข้างต้น จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลี้ จ.ลำพูน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วุฒิไกร พิมพ์เงิน ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์