ครูสาวดิ่งตึกจบชีวิตตนเอง ทั้งที่เพิ่งทำตามฝันได้สอนแค่ 2 เดือน พี่สาวเจอบันทึกสุดท้ายในมือถือ พึ่งรู้ว่าน้องทุกข์ขนาดนี้ (ข่าวต่างประเทศ)
เรื่องราวน่าสลดปนเศร้าเรื่องนี้มีที่มาจากเว็บไซต์ docnhanh ที่ได้มีการรายงานเกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตจากการจบชีวิจตนเองของ น.ส.หลู่ อายุ 23 ปี ครูโรงเรียนประถม วัย 23 ปี จาก เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก น.ส.หลู่ เพิ่งสำเร็จการศึกษาในปี 2565 และในเดือนสิงหาคม 2566 หญิงสาวสอบผ่านได้เป็นครูประจำชั้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยไม่คาดคิดเพียง 2 เดือนต่อมา น.ส.หลู่ ตัดสินใจจบชีวิตลงตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยการกระโดดลงมาจากชั้น 6 ของตึก
หลังจากที่ น.ส.หลู่ กระโดดลงมาจากอาคาร พี่สาวของเธอพบบันทึกการจบชีวิตของน้องสาวเธอในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเขียนในช่วงเวลาก่อนที่ครูสาวจะตัดสินใจกระโดดตึกโดยมีเนื้อหาว่า ฉันไม่เคยคิดเลยว่าการเป็นครูประถมจะยากขนาดนี้ ฉันอยากสอนนักเรียนให้ดีจริง ๆ แต่ทั้งงาน กิจกรรมที่โรงเรียน และการตรวจสอบภาวะผู้นำ ทำให้เรา เด็กจบใหม่ซึ่งกลายเป็นครูประจำชั้นที่ไม่มีประสบการณ์ รู้สึกเหมือนอยู่ในกรง กรงนี้เล็กลงเรื่อย ๆ ทุกวันเราต้องทำงานจนลมหายใจสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม พี่สาวของ น.ส.หลู่ เล่าว่า ปกติแล้วน้องสาวของเธอเป็นคนที่มีความสุขและมองโลกในแง่ดี แต่ในช่วง 2 เดือนที่เธอทำงานที่โรงเรียน เธอกลับเจอแต่เรื่องลบ ๆ ทุกวัน เธออยากเป็นครูมาโดยตลอด และให้ความสำคัญกับการสอนตั้งแต่วินาทีแรกที่สมัครเข้ามหาวิทยาลัย หลังจากสำเร็จการศึกษาเธอก็ได้เป็นครูอย่างเป็นทางการ ซึ่งความฝันเพิ่งเริ่มต้น และจากนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น
ทันทีที่เข้ามาทำงาน น.ส.หลู่ ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งประธานชั้นเรียน เวลาคุยกันครูสาว ๆ มักจะบ่นว่านอกจากการสอนแล้วยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากผู้บังคับบัญชา ทั้งเตรียมเอกสาร และเอกสารโฆษณาชวนเชื่อให้กับโรงเรียน และกิจกรรมอื่น ๆ นอกหลักสูตร จึงมีความเครียดอย่างมาก ตั้งแต่เจ้าทำงาน น้องสาวก็ไม่ค่อยมีวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากการเตรียมบทเรียนแล้ว เธอยังต้องทำงานล่วงเวลาและมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตรอื่น ๆ อีกด้วย
ต่อมาคนวงในได้เปิดเผยกับพี่สาวของ น.ส.หลู่ ระบุว่า ในวันนั้นก่อนเกิดเหตุสลดขึ้น ครูสาวถูกอาจารย์ใหญ่วิพากษ์วิจารณ์ นอกจากนี้ หากอยากรู้ว่า น.ส.หลู่ ต้องผ่านอะไรมาบ้างในสัปดาห์ก่อนที่เธอจะจบชีวิตตนเอง ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน ทางครอบครัวจึงต้องการตรวจสอบกล้องแต่โรงเรียนไม่ยอม
พี่สาวของ น.ส.หลู่ บอกว่า เธอและพ่อแม่ติดต่อกับโรงเรียนหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน แม้แต่บัญชี wechat ของ น.ส.หลู่ ก็ถูกลบออกจากกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับงานในโรงเรียนแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากแผนกการศึกษาและการกีฬาเขตกวานเฉิง ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบปัญหาดังกล่าวแล้ว เมื่อมีความคืบหน้าอย่างไร จะสรุปให้ได้ทราบ
ข้อมูล docnhanh