
ชาวเน็ตโฟกัส เข็มกลัดติดเสื้อ ลุงพล หลังใส่ไปฟังคำตัดสิน คดีน้องชมพู่
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 จากรณีคดี น้องชมพู่ ลุงพล” นายไชย์พล วิภา และ “ป้าแต๋น” น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ จำเลยคดีน้องชมพู่ พร้อมทีมทนายความจากสำนักกฎหมายธรรมรังสี แถลงข่าวหลังศาลจังหวัดมุกดาหาร เลื่อนฟังคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ไปเป็นวันที่ 20 ธ.ค.2566 ทนายความ กล่าวว่า มีข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้ว่า “น้องชมพู่” วิ่งตามสุนัขออกไป และผจญในป่าไปเรื่อยๆ จนหมดลมหายใจ โดยมีหลักวิชาการอ้างอิง มีการเบิกความจากครูฝึกสุนัขทหาร ส่วนเรื่องพลังงานนอกจากอาหารที่กินเข้าไป อาจใช้พลังงานจากตับหรือไขมัน
และกล้ามเนื้อของน้องร่วมด้วย ส่วนเรื่องรอยขีดข่วนตามร่างกายไม่ได้ถูกกระทำ แต่อาจเป็นบาดแผลจากต้นไม้ในป่า ซึ่งหากนายไชย์พล อุ้มน้องขึ้นภูจริง ตามธรรมชาติเด็กต้องร้องไห้และขัดขืน นายไชย์พลต้องทำร้ายร่างกายเพื่อไม่ให้ขัดขืน แต่การตรวจสอบร่างกายของศพไม่มีการทำร้ายร่างกาย และไม่ปรากฏรอยขีดข่วนบนร่างกายของนายไชย์พลเช่นกัน ส่วนเรื่องของเส้นผมที่พบในที่เกิดเหตุ ไม่มีพยานพบเห็นว่าใครทำ ไม่ปรากฏ DNA ซึ่งเส้นผมนั้นอาจจะขาดด้วยการถูกสัตว์ป่ากัดแทะก็เป็นได้ เช่น หนู หรือ แมลงสาบ
ซึ่งหากนายไชย์พล อุ้มน้องขึ้นภูจริง ตามธรรมชาติเด็กต้องร้องไห้และขัดขืน นายไชย์พลต้องทำร้ายร่างกายเพื่อไม่ให้ขัดขืน แต่การตรวจสอบร่างกายของศพไม่มีการทำร้ายร่างกาย และไม่ปรากฏรอยขีดข่วนบนร่างกายของนายไชย์พลเช่นกัน ส่วนเรื่องของเส้นผมที่พบในที่เกิดเหตุ ไม่มีพยานพบเห็นว่าใครทำ ไม่ปรากฏ DNA ซึ่งเส้นผมนั้นอาจจะขาดด้วยการถูกสัตว์ป่ากัดแทะก็เป็นได้ เช่น หนู หรือ แมลงสาบ
และความคิดเห็นชาวเน็ต หลังเห็นนายไชย์พล ใส่เสื้อมาแถลงข่าววันนี้