
ลูกชายลุงแจ้ ตอบแล้ว หลังรู้พ่อมีความสัมพันธ์กับนิ่ม พาเข้ารีสอร์ท จนมีน้องต่อ
จากกรณีที่น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน หายตัวไปจากอ้อมอกแม่ที่นครปฐม ล่าสุดผ่านไปใกล้ครบ 2 สัปดาห์ ทางพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงผลตรวจดีเอ็นเอของ น้องต่อ ยืนยันว่า ผลตรวจดีเอ็นเอระหว่าง น้องต่อ กับ ลุงแจ้ อายุ 55 ปี ตรงกัน นั่นหมายความว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกที่แท้จริง ไม่ใช่นายพุด โดยลุงแจกับนายพุดเป็นคนสนิทกัน ซึ่งวันนี้ได้นำลุงแจ้เข้ามาเข้าเครื่องจับเท็จที่กองพิสูจน์หลักฐาน 1 ด้วย พร้อมซักถามและสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
ล่าสุดลูกชายลุงแจ้ที่ได้บวชเป็นพระ ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมาตำรวจได้เดินทางมาที่วัดและพ่อก็ขับรถออกไปตั้งแต่ตอนเย็น ตัวเองมาทราบข่าวเรื่องผลดีเอ็นเอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ ยอมรับว่าตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเลยเพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่หนักหน่วงที่สุดในชีวิต เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนิ่มกับลุงแจ้ตัวเองก็มารู้ตอนที่เป็นข่าวแต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยรูัมาก่อน และหลังจากเป็นข่าวยังไม่เคยได้คุยกับพ่อเลย ตอนนี้ตัวเองอยากถามพ่อมากว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้
ซึ่งตั้งแต่ตัวเองบวชมายังไม่เคยเห็นนิ่มมาที่วัด แต่วันที่น้องต่อหายตัวไปได้เห็นนายประสาน พ่อของนิ่มขี่รถซาเล้งมาจอดไว้ที่วัด ตอนนั้นจึงรู้ว่ามีเด็กหาย แต่ตัวเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะมองว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่า โกรธพ่อนะแต่ก็พยายามทำความเข้าใจ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นคิดว่าพ่อไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่น้องต่อหายตัว เพราะวันที่ 5 ก.พ. 66 ยังเห็นพ่ออยู่ในวัดอยู่เลย ตอนนี้ยอมรับว่ากังวลว่าพ่ออาจถูกดำเนินคดีเรื่องพรากผู้เยาว์ เนื่องจากตอนนี้ลุงเเจ้ต้องเลี้ยงดูหลาน 2 คน เป็นลูกของพี่สาวอาตมา
เรียบเรียง สยามนิวส์