จากกรณีที่ เพจเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ศูนย์ข่าว สะออนคักโปรดักชั่น ชัยภูมิ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า สุดเจ็บปวดเรียกหวีละสองหมื่นสี่ เด็กประถมแอบกินกล้วยในห้องครัว หญิงวัย 33 ปี ชาว อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์ แจ้งความฐานลักทรัพย์ ,บุกรุก กับนักเรียน 8 คน อายุ 5-12 ปี หลังจับมาเค้นสอบด้วยตัวเอง พบกินกล้วยน้ำว้าในห้องครัวหมดไป 1 หวี ตำรวจรับเรื่อง ออกหมายเรียกเด็กอนุบาลถึง ป.6 มารับทราบข้อกล่าว เรียกสินไหมรายละ 3,000/8 คนรวมเป็นเงิน 24,000 ต่อมาใจดีลดเหลือคนละ 2,000 เจ้าตัวระบุโดนหลายครั้ง

ภาพจาก ศูนย์ข่าว สะออนคักโปรดักชั่น ชัยภูมิ

ภาพจาก ศูนย์ข่าว สะออนคักโปรดักชั่น ชัยภูมิ

ซึ่งเด็ก ด.ช.เอ เล่าว่าเด็กทั้ง 8 คน ยอมรับเข้าไปที่ห้องครัวของเจ้าของบ้านจริง เข้าไปกินกล้วยจริง แต่ไม่ได้ไปทำลายทรัพย์สินสาเหตุที่เข้าไปเพราะห้องครัวเป็นห้องครัวแบบโล่ง ไม่มีฝากั้น ประกอบกับเคยไปบ้านหลังนี้เป็นประจำ เนื่องจากเจ้าของบ้านเคยเรียกให้ไปซื้อไก่ป๊อป ที่เหลือจากการขาย อีกทั้งลูกชายเจ้าของบ้านเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน

ภาพจาก ศูนย์ข่าว สะออนคักโปรดักชั่น ชัยภูมิ

วันที่ 4 ธ.ค.ผู้ปกครองทุกคนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนผู้กล่าวหา เบื้องต้นเรียกเงินค่าสินไหมรายละ 3,000 บาท แต่ลดให้เหลือคนละ 2,000 บาท ผู้ปกครองจำนวน 4 คนยอมจ่ายเพราะอยากจบปัญหาส่วนอีก 4 คนที่เหลือเด็กปฏิเสธว่าไม่ได้ไปด้วย ซึ่งเจ้าของกล้วยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด สำหรับผู้ที่ไม่จ่าย

ภาพจาก ศูนย์ข่าว สะออนคักโปรดักชั่น ชัยภูมิ

ล่าสุด พี่สาว น.ส.กุ้ง คนแจ้งความเด็ก กล่าวว่า วันที่บ้านน้องสาวโดนปาไข่ และโดนเทน้ำยาซักผ้า เอกสารต่าง ๆ ภายในบ้านเสียหาย รวมถึงกล้วยที่หายไป เป็นวันเดียวกัน แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือเด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งคาดว่าโดนกลั่นแกล้ง ทำให้น้องสาวเกิดความเครียด และหาตัวคนก่อเหตุจนกระทั่งมีเด็กมายอมรับดังกล่าว

ขณะที่ พ.ต.ท.ศิริชัย เจริญศิริ สารวัตร (สอบสวน)สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย กล่าวว่า การออกหมายเรียกทำไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ถ้ามีหลักฐานเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิด ก็ต้องออกหมายเรียกตามกระบวนการ ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร ตอนนี้ได้ออกหมายเรียกเด็กไปแล้วจำนวน 4 คน ส่วนเด็กที่เหลืออีก 4 คนที่ยังไม่ได้ออกหมายเรียก หากผู้เสียหายคือ น.ส.กุ้ง มีความประสงค์จะดำเนินคดี จะต้องออกหมายเรียกอีกเช่นเดียวกัน

เรียบเรียง สยามนิวส์