สาวทนไม่ไหว ร้านซักรีด ทำเสื้อผ้าแบรนด์เนมกว่า 300,000 สีตก

สาวทนไม่ไหว ร้านซักรีด ทำเสื้อผ้าแบรนด์เนมกว่า 300,000 สีตก

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวพลอย (นามสมมุติ) ชาวจังหวัดขอนแก่นได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 ได้นำเสื้อผ้าแบรนด์ดังประกอบด้วย chanel จำนวน 3 ตัวและ louis Vuitton จำนวน 1 ตัวไปส่งซักรีดที่ร้านรับซักรีดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดขอนแก่น

กระทั่งเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2565 ลูกสาวไปรับเสื้อที่ส่งซักปรากฏว่าเสื้อไหมพรมแขนยาวจำนวน 2 ตัวยี่ห้อ chanel ราคารวมกันประมาณ 3 แสนบาทสีเปลี่ยนไปจากสีขาวนวลกลายเป็นสีสนิมหรือสีน้ำตาลเข้ม จึงได้สอบถามกับทางร้านทางร้านก็ยืนยันว่าเสื้อผ้าที่นำมาซักทั้งหมดสีไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม แต่ตนเองก็มั่นใจว่าวันที่ส่งซักเสื้อไหมพรม  2ตัวเป็นสีขาวนวลเพราะก่อนส่งซักลูกสาวได้ถ่ายภาพไว้ขณะอยู่ในร้านก็เป็นสีขาวนวลชัดเจนไม่ได้มีการปรับแต่งสีใดๆเพราะกล้องมือถือสามารถระบุรายละเอียดและแหล่งที่มาของภาพได้ จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ได้มีปากเสียงกันตนเองจึงได้โทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ย ทั้งสองฝ่ายจึงยอมแยกย้ายตนเองพร้อมลูกสาวจึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.เมืองขอนแก่น

นางสาวพลอย กล่าวอีกว่า ตนเองประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวทั้งอสังหาริมทรัพย์ร้านทองและห้องเช่าจึงพอมีฐานะอยู่ในระดับหนึ่งจึงมักซื้อเสื้อผ้าและของใช้แบรนด์เนมเพื่อเป็นของรางวัลให้กับลูกสาวอยู่เสมอ จึงทำให้ที่บ้านมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมหลายชิ้นหลายยี่ห้ออยู่แล้ว ยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่การกลั่นแกล้งแต่มองว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากการบริการของร้านซักรีดจึงอยากให้ทางร้านออกมาแสดงความรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวเราเดินทางไปที่ร้านซักรีดตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างแต่ทางร้านไม่สะดวกให้บันทึกภาพ แต่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าที่ร้านได้เปิดให้บริการซักรีดมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว มีลูกค้าประจำและทั่วไปวนเวียนมาใช้บริการเป็นประจำเพราะที่ร้านเน้นการบริการซักรีดที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะน้ำยาซักและขั้นตอนการซักและรับแก้ปัญหาเสื้อผ้าสีหมองคล้ำ

ที่ผ่านมาก็มีลูกค้านำเสื้อผ้าแบรนด์ดังและทั่วไปมาซักอยู่ตลอดก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องสีตกหรือผ้าหมองคล้ำ กรณีนี้ทางร้านได้รับเสื้อลูกค้ามา 4 ตัวเป็นเสื้อยืด 4 ตัวและเสื้อไหมพรม 2 ตัวซึ่งมีคราบสกปรกทางร้านจึงรับมาเหมือนลูกค้าปกติทั่วไป จากนั้นก็นำเข้าสู่กระบวนการซักคือเสื้อผ้าแบรนด์เนมทางร้านจะซักมือทีละตัวโดยน้ำยาซักแห้งขจัดคราบตามเทคนิคของทางร้าน จะไม่ใช้วิธีการซักเครื่องเหมือนเสื้อผ้าทั่วไป ตากแห้งเสร็จก็นำมารีดส่งมอบให้ลูกค้า

เมื่อถึงเวลานัดลูกค้าก็มารับแต่ไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาเพราะลูกค้าอ้างว่าเสื้อไหมพรมแขนยาวจำนวน 2 ตัวมีสีเพี้ยนไปจากเดิมตนเองก็ยืนยันว่าวันที่รับเสื้อมาเสื้อก็เป็นสีนี้เดิมอยู่แล้วหากทำสีตกเสื้อจะต้องมีรอยด่างและสีตัวอักษรอยู่บนเสื้อจะต้องซีดจางตามไปด้วย และเสื้อยืดขาวจำนวน 2 ตัวที่ส่งมาซักด้วยกันก็ปกติเพราะใช้นำยาตัวเดียวกัน แต่เสื้อที่เห็นคือขาวสะอาดไม่มีรอยด่างบนเสื้อจึงเป็นไปไม่ได้ว่าทางร้านจะซักผ้าให้เกิดความเสียหายตามที่ลูกค้ากล่าวอ้าง

ส่วนภาพที่นำมายืนยันกับทางร้านนั้นเป็นสีสว่างอาจจะเกิดจากมุมภาพและแสงขณะบันทึกภาพก็เป็นได้จึงอยากขอความเห็นใจกับทางร้านด้วย เพราะทางร้านเราบริการลูกค้าด้วยดีมาตลอดไม่เคยมีปัญหา หากเป็นความผิดพลาดทางร้านก็พร้อมยอมรับ แต่กรณีนี้ยืนยันไม่ใช่ความผิดของทางร้านจริงๆ กรณีที่ลูกค้าระบุว่าเสื้อแบรนด์เนมราคาตัวละ 150,000 บาทนั้นก็มีราคาแพงเกินไปเพราะจากที่ตรวจสอบข้อมูลแล้วเสื้อผ้ารุ่นนี้ของแท้มือหนึ่งราคาตัวละ 29,000 บาทเท่านั้น

ขณะที่พนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น หลังรับแจ้งความยังไม่ได้มีการเรียกคู่กรณีทั้งฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ