โซเชียลเสียงแตก เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ภาพพระเข้าฟิตเนส ออกกำลังกาย

โซเชียลเสียงแตก เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ภาพพระเข้าฟิตเนส ออกกำลังกาย

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ปรากฏภาพพระเณรกำลังออกกำลังกายในห้องฟิตเนสในวัดแห่งหนึ่งได้ถูกเผยแพร่ตามสื่อโซเชียล จนมีผู้มาแสดงความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายสนับสนุนก็ให้ความเห็นว่า เป็นการเปิดโอกาสให้พระภิกษุและสามเณรได้ออกกำลังกาย แต่ฝ่ายที่คัดค้านได้พากันติติงถึงความไม่เหมาะสมที่พระจะมาเล่นฟิตเนสกันเป็นหมู่คณะ หากต้องการจะออกกำลังกายควรทำในที่ส่วนตัวมิดชิด และยังแนะนำว่าพระภิกษุสามเณรในอดีตจะออกกำลังกายโดยการออกบิณฑบาต และกวาดลานวัด เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปติดตามกรณีดังกล่าว ที่วัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ซึ่งได้มีการสร้างห้องฟิตเนสออกกำลังกาย ไว้ที่บริเวณใต้ถุนอาคารเจ้าคุณพบโชค เพราะที่ผ่านมาได้มีลูกศิษย์และคณะศรัทธาได้นำเอาอุปกรณ์ฟิตเนสมาบริจาคให้กับทางวัด จึงต้องมีการสร้างห้องฟิตเนสขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียน เจ้าหน้าที่ และพนักงานที่อยู่ในความดูแลของทางวัดได้มีสถานที่ออกกำลังกาย ซึ่งจะมีการเปิดห้องฟิตเนสเป็นช่วงเวลา โดยในเวลา 16.00-18.30 น. จะเปิดให้เด็กนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปได้มาออกกำลังกาย แต่ในช่วงเวลาตั้งแต่ 18.30 น. ไปจนถึงเวลา 22.00 น. จะเป็นช่วงเวลาที่เปิดให้กับเจ้าหน้าที่และพนักงานของวัดมาใช้ออกกำลังกาย

นายพิทักษ์พงศ์ สุขวัฒนา อายุ 23 ปี พนักงานในวัดห้วยปลากั้ง เล่าว่า ตนทำงานในวัดห้วยปลากั้ง และจะมาเล่นออกกำลังกายในห้องฟิตเนสของทางวัดเป็นประจำ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 4 วัน โดยทางวัดจะกำหนดเงื่อนไขคือ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะไม่อนุญาตให้มาออกกำลังกายในห้องฟิตเนส ส่วนหนึ่งอาจเพราะเกรงจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของเด็กเล็ก แต่สำหรับเด็กอายุมากกว่า 15 ปี และพนักงานเจ้าหน้าที่ของวัดก็สามารถมาออกกำลังกายได้ตั้งแต่ 4 โมง ไปจนถึง 4 ทุ่ม

ในส่วนของพระเณรก็จะมีมาออกกำลังกายกันบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะชักชวนกันมาเป็นกลุ่ม มาเป็นบางวัน เพราะที่พักสำหรับพระเณรจะอยู่ค่อนข้างห่างจากห้องฟิตเนสพอสมควร ในความเห็นส่วนตัว ก็คิดว่าเป็นเรื่องดีที่พระเณรได้ออกกำลังกาย เพราะจะได้มีสุขภาพที่ดี เป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีอีกด้วย แทบไม่มีผลเสียอะไรเลย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ