ผมขอพูดความจริง พยานสำคัญคนนี้แหละ เล่าหมดคืนแตงโมตกเรือ
เรามาตามติดกันต่อในประเด็นที่เกี่ยวกับ กรณีเรื่องราวข่าวเศร้า ของวงการบันเทิง กับการจากไปของ นางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นิดา หลังเกิดเหตุ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ก่อนเจ้าหน้าที่จะค้นหาพบ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งยังมีอีกหลายประเด็นที่คนตั้งข้อสงสัย แต่ก็ยังไม่มีการชี้แจงให้คลายข้อสงสัยได้
ต่อมา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ได้มีการลงพื้นที่ไปยัง ประตูระบายน้ำใกล้กับวัดลุ่ม จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ ที่บันทึกภาพเรือในวันเกิดเหตุได้เชื่อโยงหาหลักฐานเพิ่มเติม และคราบสีแดงที่พบใกล้ประตูระบายน้ำนั้น
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ทีมข่าวได้กล้องบริเวณประตูระบายน้ำ เทียบกับมุมกล้องของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งฝั่งซ้ายของจอจะเห็นมุมไกลเป็นพื้นที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นจุดที่นางสาวแตงโมตกจากสปีดโบ๊ต ส่วนมุมขวาของจอเป็นมุมกล้องของประตูระบายน้ำวัดลุ่ม ช่วงเวลาคาดว่าเกิดเหตุ 22.32 น. ฝั่งซ้ายจะเห็นแสงไฟของเรือสปีดโบ๊ตขับผ่านเรือลากทราย ส่วนฝั่งขวาของมุมจอจะเห็นว่าชายใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงินลุกขึ้นจากจุดที่นั่งตกปลาอยู่ เดินขึ้นไปด้านบนประตูระบายน้ำ ใกล้กับจุดที่ ส.ส.เต้ เจอกองสีแดง
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
วันที่ 21 มี.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ ไปยังบริเวณประตูระบายน้ำใกล้กลับวัดลุ่ม จ.นนทบุรี สำรวจกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุในคืนวันที่ 24 ก.พ. 65 ตามที่ ส.ส.เต้ ได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกองคราบสีแดงที่เจอบนประตูระบายน้ำข้างวัดลุ่ม อาจเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องในคดีของนางสาวแตงโมหรือไม่
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ในคืนวันที่ 24 ก.พ. ก่อนตกเรือ เวลา 21.39 น. กล้องวงจรปิด 2 ตัว ซึ่งตัวแรกหันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนตัวที่ 2 หันไปที่ประตูระบายน้ำวัดลุ่ม จับภาพชายใส่เสื้อก้ามสีน้ำเงินมาพร้อมกับคันเบ็ดเดินไปมา บริเวณประตูระบายน้ำและเดินเรียบไปกับริมน้ำเจ้าพระยา จังหวะเดียวกันมีเรือแจวสีขาวมีการภายเรือล่องในแม่น้ำเจ้าพระยาเรียบไปกับเขื่อนริมน้ำที่เห็นชายใส่เสื้อสีน้ำเงินเดินผ่าน
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
เวลา 21.53 น. มุมกล้องจะไม่เห็นชายใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงิน แต่ยังคงเห็นเรือแจวสีขาวพายอยู่ใกล้กับประตูระบายน้ำ จากนั้นช่วงเวลาดังกล่าว เรือแจวก็จะพายวนอยู่ที่เดิม ก่อนที่จะหายไปในประตูระบายน้ำ
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ช่วงเวลา 22.12-22.32 น. หลังจากที่ชายใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงินเดินหายไปจากมุมกล้อง เดินมาเรียกเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลับมาที่ประตูระบายน้ำจุดเดิม มุมกล้องด้านล่างจะเห็นว่านั่งตกปลาอยู่ นั่งอยู่บริเวณเดิมและเดินไปมาในกล้อง จากภาพเวลา 23.14 น. ก็ยังพบว่าเรือขับวนหาแตงโมอยู่
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ในคืนวันเกิดเหตุ ตนเองอยู่ตั้งแต่ช่วงก่อนที่เรือสปีดโบ๊ตของนายปอแล่นผ่าน จนกระทั่งหลังเวลาเกิดเหตุคือ 22.32 น. ตนเองก็ยังวางขายปลาอยู่บริเวณนั้น ไม่ได้ไปไหน เพราะพายเรือกลับบ้านหลังเที่ยงคืน ตอนที่ตนเองกำลังวางขายปลาก็สังเกตว่ามีเรือสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุขับผ่านขึ้นไป ก่อนที่จะขับลงมาและวนอยู่ที่เดิม ได้ยินเสียงคนพูดกันเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว แต่จะได้ยินเสียงผู้หญิงคล้ายกับตะโกนหาใครบางคน จนกระทั่งตัวเองไม่รู้ภายหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่ามีคนตกน้ำ ซึ่งคนนั้นก็คือแตงโม
แต่สำหรับกรณีที่ ส.ส.เต้ ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกองคราบสีแดงที่เจอบนประตูระบายน้ำ ส่วนตัวมองยืนยันกับชาวบ้านตรงกันว่าเป็นเลือดปลา ซึ่งอาจเกิดจากการหาปลา ฉะนั้นจึงไม่ได้คิดเป็นไปตามข้อสมมุติฐานของ ส.ส.เต้ ว่าจะมีใครพากันขึ้นมาที่ประตูระบายน้ำ เพราะในวันนั้นมีทั้งตนเองและชาวบ้านคนอื่นอยู่ที่จุดดังกล่าว ที่สำคัญแม้ว่าตนเองจะอยู่ใกล้กับบริเวณประตูระบายน้ำพร้อมกับชาวบ้านกลุ่มอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองคราบสีแดงดังกล่าว และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเกี่ยวกับการตกน้ำของนางสาวแตงโม
ทั้งนี้ ในคืนวันเกิดเหตุแม้ว่าตนเองจะเห็นสปีดโบ๊ต และเจ็ตสกีในกลุ่มเพื่อนของนายปอ มีการขับผ่านไปมาบริเวณท่าน้ำวัดลุ่ม แต่ก็ยืนยันในฐานะที่เป็นพยานมุมมองของชาวบ้านที่หาปลาอยู่บริเวณประตูระบายน้ำ ว่าไม่พบเห็นเรือสปีดโบ๊ตหรือเรือเจ็ตสกีของกลุ่มนายปอผ่านมาเฉียด หรือใกล้กับประตูระบายน้ำ ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนหนึ่งในกลุ่มของเรือสปีดโบ๊ตขึ้นไปก่อเหตุหรือทะเลาะกันบริเวณประตูระบายน้ำตามที่มีคนสงสัย
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว